ค้นหาบล็อกนี้

วันเสาร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2555

สพฐ.กระจายแท็บเล็ตล็อต 3 อีก 60,000 เครื่อง




.....
ไอซีทีขยายไวไฟหมื่นโรงรองรับการเรียนรู้ เปิดเวทีชวนครู-นร.ประกวดสื่อซอฟแวร์ใช้กับแท็บเล็ต
       นายชินภัทร ภูมิรัตร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการคอมพิวเตอร์มือถือสำหรับนักเรียนทุกคน (One tablet PC Per Child) ว่าขณะนี้การดำเนินการกระจายเครื่องแท็บเล็ตถือว่าเป็นไปตามแผนงาน โดยล็อตแรก 55,000 เครื่อง และล็อตที่ 2 จำนวน 73,000 เครื่องได้ดำเนินการจัดส่งไปเรียบร้อยแล้วส่วนล็อตที่ 3 จำนวน 60,000 เครื่อง น่าจะกระจายได้ในวันที่ 14 ส.ค.นี้ ตอนนี้เครื่องแท็บเล็ตเริ่มทยอยมาอย่างต่อเนื่อง
      ส่วนระบบไวไฟ (WiFi) สพฐ.ได้มีการประชุมกับคณะอนุกรรมการส่งเสริมการใช้แท็บเล็ต เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีความชัดเจนมากขึ้นว่า กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ได้มีการวางโครงข่ายระบบไวไฟเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าภายในปีนี้จะมีโรงเรียนที่เข้าถึงระบบไวไฟประมาณ 10,000 โรง ส่วนที่เหลืออีกว่า 20,000 โรง สพฐ.พยายามจะอัพเกรดระบบเดิมที่มีอยู่เช่นระบบจานดาวเทียวให้มีความเร็วมากขึ้นและมีความเสถียรมากขึ้น
      อย่างไรก็ตาม โรงเรียนที่ใช้ระบบดาวเทียมอาจมีข้อจำกัดในเรื่องของความเร็ว สพฐ.ได้หาวิธีการขจัดอุปสรรค์ในการเข้าถึงแหล่งความรู้ โดยขณะนี้ได้มีการศึกษาวิจัยและพัฒนารูปแบบที่ จ.กาญจนบุรี และ จ.สุพรรณบุรี โดยใช้เซิฟเวอร์ของโรงเรียนที่มีประสิทธิภาพสูงเชื่อมต่อเข้าอินเตอร์เน็ต ที่สามารถเข้าถึงระบบอินเตอร์เน็ตให้นักเรียนสามารถเข้าไปดาวน์โหลดเนื้อหาต่างๆซึ่งจะลดข้อจำกัดต่างๆ ในการเข้าถึงแหล่งความรู้ลงได้
      นายชินภัทร กล่าวอีกว่า ส่วนความคืบหน้าเรื่องการพัฒนาบุคลากรขณะนี้ได้อบรมครูแกนนำจำนวน 549 คนแล้วเสร็จเรียบร้อยแล้ว และอยู่ในช่วงที่วิทยากรแกนนำทั้ง 183 เขตพื้นที่ฯ กำลังไปขยายผลให้กับ ครู ป.1 ในอัตราส่วน 1:100 ซึ่งจะแล้วเสร็จภายในเดือน ส.ค.นี้ คาดว่าครูผู้สอนชั้น ป.1 จะมีความพร้อมทั้งหมดภายในสิ้นเดือน ส.ค.นี้
      ส่วนเรื่องการพัฒนาสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หลักจากบรรจุสื่อเลิร์นนิ่งออฟเจ็ก ต้องมีการพัฒนาสื่ออย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้ได้เริ่มโครงการประกวดสื่อซอฟแวร์ที่จะใช้ในเครื่องแท็บเล็ต ครั้งที่ 1 โดยเชิญชวนครูและนักเรียนส่งผลงานเข้าประกวดและได้เตรียมการที่จะประกวดในโครงการที่ 2 ซึ่งเป็นการประกวดแบบบุคลทั่วไป ซึ่งจะมีเอกชนร่วมทำประโยชน์เพื่อสังคม หรือ CSR มาร่วมด้วย ทั้งนี้ หลังจากมีการแจกเครื่องแท็บเล็ตให้การเรียนการสอนแล้ว สพฐ.ต้องมีการติกตามประเมินผลอย่างต่อเนื่องด้วย

ขอขอบคุณข่าวสาร/ข้อมูลดีๆ จากเว็บไซต์หนังสือพิมพ์สยามรัฐ

2 ความคิดเห็น: